紅塗抹 ; Red smear ป้ายสี - นิยาย 紅塗抹 ; Red smear ป้ายสี : Dek-D.com - Writer
×

    紅塗抹 ; Red smear ป้ายสี

    เรื่องราวของมือสังหารสาวในคราบคุณหนูเพียงหนึ่งเดียว ทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งพรรคมังกรฟ้าอันไม่ถูกยอมรับในพรรคและความรักที่ถูกผูกมัดของนาง

    ผู้เข้าชมรวม

    1,014

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    1.01K

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    37
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 พ.ค. 60 / 00:17 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ






    紅塗抹 ; Red smear ; ป้ายสี

     

    หากท่านยอมข้าแต่แรก เรื่องพวกนี้คงไม่เกิด

    - หลิวมี่อิง หงจี้จูป่ายเหอ

    พลับพลึงแดง มือลอบสังหารอันดับหนึ่งของพรรคหมื่นมาร

    พรรคมารแนวหน้าของยุทธภพ

     


     



    นางยอมรับว่านางสารเลวยิ่ง ไม่เคยสำนึกกับสิ่งที่ตนทำ กลับยอมรับผิดหน้าด้านๆ

    หาได้เป็นกัลยาณชน จัดได้เป็นเหล่าทรชนผู้หันหลังให้แก่ราชสำนักอันเน่าเฟะ

     

    หงจี้จูป่ายเหอถูกขนานนามว่าเป็นหญิงแปดเหลี่ยมสิบสองคม

    ทำทุกทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย.. ใครเล่าจะทราบ

     

    จุดอ่อนของนางมารร้ายนักลอบสังหารผู้ลือชื่อนี้ คือสิ่งที่หาได้ยากในโลกโสมมเยี่ยงนี้นัก

     

    ความเชื่อใจ

     

    นางเป็นคนฉลาดพอจะทราบว่าจุดอ่อนของนางร้ายแรงยิ่งนัก

    แต่พยายามแก้อย่างไรก็ไม่อาจหายไปง่ายๆ รังแต่จะทำให้สุขภาพจิตแย่เสียเปล่าประโยชน์

     

    จนกระทั่งเพื่อนสาวของนางใช้จุดอ่อนดังกล่าวเล่นงาน

     

    สิ่งไม่คาดฝันคือหลิวมี่อิงได้สิ้นชีพไป วิญญาณหาได้หายไปตามกายหยาบ

    เป็นไป๋หลี่เจินเจินที่วิญญาณสูญสลายหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล


    -


    หลิวมี่อิงเป็นคนดวงดี เพราะเหตุใดไม่ทราบ

    แต่เธอเป็นคนดวงดีแบบสุดโต่งจนไม่น่าเชื่อว่าคนๆหนึ่งจะสามารถดวงดีได้ถึงขนาดนี้


    -


    'ไป๋หลี่เจินเจิน บุตรสาวเพียงหนึ่ง ทายาทผู้จะสืบทอดตำแหน่งประมุขพรรคของพรรคมังกรฟ้าผู้ถูกยกย่อง'



              'แท้จริงเป็นเพียงทายาทประมุขที่ไม่ถูกยอมรับภายในสำนักเนื่องจากสติปัญญาอันโง่เง่าเต่าตุ่นของนางรวมถึงข่าวลือเรื่องปานอัปลักษณ์บนหน้าจึงอับอายและไม่ยอมเปิดเผยหน้าตาของตน'



              ไป๋หลี่เฟยเจิน ประมุขพรรคมังกรฟ้าได้สิ้นลมลงเพราะถูกลอบสังหาร มารดาของเจินเจินที่เป็นฮูหยินเพียงหนึ่งเดียวจึงมาควบคุมดูแลพรรคแทนจนกว่าเจินเจินจะอายุได้สิบเก้าปี



              แต่ด้วยความที่เจินเจินรักผู้เป็นบิดามาก ไป๋หลี่ฟางซินผู้เป็นแม่ห่วงจิตใจของเด็กน้อย จึงปิดบุตรสาวไว้ว่าบิดาหาได้จากไป เขาแค่เดินทางไปเมืองหลวงเพื่อไปพบสหายเพียงเท่านั้น



              ไม่นานนักหลังจากประมุขพรรคจากไปอย่างถาวร ไป๋หลี่ฟางซินถูกวางยาจึงสารภาพกับเจินเจินอย่างจนใจก่อนที่นางจะตกตาย จากนั้นท่านลุงของเจินเจินจึงมาดูแลพรรคให้ชั่วคราว



              ทางฝ่ายเจินเจินได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจถึงสองเรื่องพร้อมกันในวัยเพียงสิบปีส่งผลให้ล้มป่วยลงด้วยโรคทางจิตใจรักษาไม่ได้ง่ายๆ ไป๋หลี่หมิงหลิงพยายามเฟ้นหาสมุนไพรมากมายเพื่อรักษาแต่อาการนางกลับไม่ดีขึ้นมีแต่ย่ำแย่ลงในแต่ละวัน



              จนวันเวลาผ่านไปกว่าสี่ปี ไป๋หลี่เจินเจินหยุดหายใจไปกว่าชั่วยามก่อนกลับมาหายใจอีกครั้งและอาการป่วยกับปานบนใบหน้างามสง่าก็จางหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย



              แต่ไป๋หลี่เจินเจิน.. ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป



              กลับเป็นหลิวมี่อิงในวัยสิบสี่ปี..



              หลิวมี่อิงเป็นมือลอบสังหารอันดับหนึ่งในพรรคหมื่นมาร พรรคมารอันโด่งดังด้านลอบสังหารตั้งแต่อายุสิบสามปี หลิวมี่อิงตัดสินใจจะออกไปจากพรรคที่เก็บนางมาเลี้ยงดูและสั่งสอนวิชาความรู้ให้นางตั้งแต่ยังจำความไม่ได้



              แต่เพื่อนสนิทของนางกลับทรยศต้องการเป็นอันดับหนึ่งของสำนักขังนางในห้องหับมืดใต้ดินและบอกให้นางดื่มยาพิษ ไม่เช่นนั้นจะฆ่าเด็กหนุ่มวัยสิบสองปีที่นางเก็บมาเลี้ยงดู



             หลิวมี่อิงรักและเอ็นดูเด็กหนุ่มคนนั้นดั่งน้องชาย รู้นิสัยใจคออดีตเพื่อนรักดีจึงเชื่อว่าหากนางดื่มยาตรงหน้าเข้าไปอดีตเพื่อนคนนี้จะปล่อยเด็กคนนั้นไปอย่างแน่นอน



              นางจึงตัดสินใจดื่มยาพิษนั่นอย่างไม่ลังเลก่อนกระอักเลือดอึกใหญ่ลงพื้นและหนังตาก็ไม่อาจยื้อไว้ท่ามกลางเสียงหัวเราะลั่นของหญิงสาวอีกนาง



              เมื่อฟื้นขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึงกลับพบว่าตนอยู่ในร่างของไป๋หลี่เจินเจิน จากสาวใช้ส่วนตัวและบันทึกที่ไป๋หลี่เจินเจินซ่อนไว้ใต้หมอนขนเป็ดเห็นได้ชัดว่าเจินเจินเป็นเด็กที่อาภัพไปในทุกๆด้าน



              หลิวมี่อิงจึงตัดสินใจกอบกู้ชะตาชีวิตของร่างอันน่าสงสารนี้ให้ทุกคนยอมรับและให้ไป๋หลี่เจินเจินตัวจริงภูมิใจในร่างของตน ไม่เสียใจที่ยกร่างใหม่ชีวิตใหม่นี้ให้กับนาง



              นางเริ่มสำรวจทุกอย่างอย่างระแวดระวังด้วยความเป็นอดีตนักลอบสังหารจึงไม่อาจผ่อนคลายได้เต็มที่ ตอนยังเป็นมือลอบสังหารมี่อิงเคยได้ยินเกี่ยวกับพรรคมังกรฟ้าอันโด่งดังนี่ไปทั่วไม่ว่าจะข่าวเลวหรือข่าวดี



              ไป๋หลี่เจินเจินถูกร่ำลือว่ามีปานอยู่บนใบหน้าแต่เมื่อเธอฟื้นขึ้นมากลับไม่พบปานดังกล่าว



              รูปร่างสง่างามผ่องแพร้วแต่ร่างกายสูงโปร่งดั่งหญิงงามล่มเมือง ใบหน้างดงามผอมแห้งซีดเซียวทอดมองตัวเองในกระจก



              เพ้ย! เจินเจิน ทำไมนางถึงสวยขนาดนี้!



              ถึงจะผอมไปบ้างจนกระดูกบางส่วนเห็นได้ชัด ใบหน้าซูบตอบ ผิวสีซีดเขียวแต่ก็ไม่สามารถปิดบังความน่าเกลียดน่าชังนั้นได้



              หลิวมี่อิงได้แต่อุทานในใจอย่างปลงๆ



              ไป๋หลี่เจินเจิน สวยอาภัพตัวจริงเสียงจริง



              เมื่อวิเคราะห์ร่างใหม่ของตนเสร็จ จึงคิดหาวิธีให้เจินเจินเป็นที่ยอมรับก่อนอายุสิบเก้า เหลือเวลาอีกแค่ห้าปีเท่านั้น ต้องรีบหน่อยก่อนนางจะหมดหวังอย่างถาวร



               นางขมวดคิ้วมุ่น เคยได้ยินเกี่ยวกับสำนักพันหมื่นมังกรของพรรคมังกรฟ้ามาบ้าง หากขึ้นเป็นอันดับหนึ่งถึงสิบในการประลองคัดตัวศิษย์จะถูกคัดเข้าไปเป็นศิษย์สายใน หากถูกอกถูกใจเหล่าชนชั้นสูงที่เป็นอาจารย์ในพรรคเข้าก็จะกินคะแนนใจไปได้กว่าครึ่ง..



              แต่การประลองดั่งกล่าวไม่เพียงต้องมีวรยุทธ์สูงส่ง ต้องมีสติปัญญาอันฉลาดเฉลียวพรสวรรค์และโชคที่ดีจึงจะผ่านการทดสอบหลังประลองไปได้



              พรสวรรค์ดังกล่าวมีอยู่หกระดับด้วยกัน

     - จ้าวจอมจักรพรรดิ

     - จักรพรรดิ

     - ราชันย์

     - รัชทายาท

     - ราชนิกูล

     - ขุนนาง



    ถ้าไม่เป็นหนึ่งในหกระดับนี้จะไม่จัดเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่จะจัดเป็นคนไร้พรสวรรค์ พรรคมังกรฟ้าหยิ่งยโสยิ่ง พรสวรรค์ระดับขุนนางว่าจะมีเพียงหนึ่งในยี่สิบแล้ว หากไม่ติดหนึ่งในสิบ ก็จะรับเพียงพรสวรรค์ราชนิกูลที่มีเพียงหนึ่งในห้าสิบขึ้นไปเท่านั้น



    และพรสวรรค์ราชนิกูลเองก็เป็นได้เพียงแค่ศิษย์นอก



    ในแต่ล่ะปีมีคนแห่มาสอบประลองมากมายกว่าพันคน

    พรสวรรค์ระดับรัชทายาทหาได้หนึ่งในร้อย ราชันย์หาได้หนึ่งในห้าร้อย จักรพรรดิหาได้หนึ่งในพัน



    จ้าวจอมจักรพรรดิ เรียกได้ว่าหายสาบสูญ



    พรสวรรค์นี้จะถูกส่งต่อทางสายเลือดและดวงที่ดีมหาศาลของครอบครัว

    ในประวัติศาสตร์ถูกจารึกไว้ในร้อยปีที่ผ่านมามีเพียงสามตระกูลที่มีสายเลือดจ้าวจอมจักรพรรดิกำเนิดขึ้น



    คือ ตระกูลไป๋หลี่

    ราชวงศ์โอวหยาง

    และ ราชวงศ์ซือหม่า



    ตระกูลไป๋หลี่ไม่มีใครทราบว่าผู้ใดมีพรสวรรค์จ้าวจอมจักรพรรดิ แต่คนมีพรสวรรค์ผู้นั้นเกิดขึ้นในช่วงสงครามล้างพรรคมารและมีข่าวว่าพึ่งจากไปก่อนเธอมาอยู่ในร่างไป๋หลี่เจินเจินไม่นาน



    ราชวงศ์โอวหยาง คือองค์ชายโอวหยางเสวี่ยเฟิน โอรสลำดับที่สามของพระสนมหวงกุ้ยเฟย ปัจจุบันมีพระชันษาเพียงสิบสองชรรษา



    ราชวงศ์ซือหม่า คือองค์หญิงซือหม่าอิงเฟิง ไม่มีข้อมูลอะไรเล็ดลอดออกมา นอกจากถูกโจรป่าปลงพระชนม์ เสียชีวิตตั้งแต่วัยเยาว์



    - - - - - - - - - -



    นิยายเรื่องนี้ชื่อซะร้าย เหมือนมีแต่มารยาทมันทั้งเรื่อง เหมือนมีการแก่งแย่งชิงดีบ้าง หึงหวงบ้างของเหล่าสนมที่วันๆเอาแต่เย็บปักถักร้อยเรียนพิณ ส่วนนางเอกก็เก่งหนังสือหนังหายังกับจะไปสอบขุนนางที่ไหน


    นางเอกเรื่องนี้เฉลียวไม่ฉลาด ไร้ความรับผิดชอบ พึ่งพาไม่ได้ แถมยังขี้เกียจ มีแต่พรสวรรค์และดวงเท่านั้นที่พึ่งพาได้ 


    อ่านไปนักอ่านบางคนอาจลุกขึ้นมาด่าไรท์ก็ได้ นางเอกดวงดีเกินไปจนผิดธรรมชาติบ้างล่ะ นางเอกดวงดีไปจนน่าเบื่อบ้างล่ะ...


    ขอชี้แจงไว้ตรงนี้ว่า -ทุกอย่างมีเหตุผลของตัวมันเอง-




     



    หมายเหตุ - ขออนุญาตหยุดอัพยั่วยวนและเจ็ดสามีหนึ่งภรรยาจนกว่าพร็อตที่แต่งไว้จะกลับมานะ.. T T

    แท้บเล็ตหน้าจอแตกส่งซ่อมพร้อตอยู่ในนั้นค่ะ.. อ่านปายสีแก้ขัดไปก่อนเนอะ T T

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น